วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เจ้าคุณเสงี่ยม พระสุวรรณศีลาจารย์


ร่วมทอดกฐินประจำปี 55 วัดสุวรรณเจดีย์

ด้วยทางคณะกรรมการวัดสุวรรณเจดีย์ ได้กำหนดให้วันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 เป็นวันร่วมทำบุญทอดกฐินประจำปี 2555

วัตถุประสงค์เพื่อนำปัจจัย รายได้ทั้งหมดไปบูรณะปฎิสังขรเสนาอาสนะที่ชำรุดทรุดโทรม โดยเฉพาะหลังคาศาลาการเปรียญ
ทรุดโทรมเป็นอย่างมาก


ขอเรียญเชิญ ทุกๆท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินประจำปี 55 วัดสุวรรณเจดีย์

กฐินสามัคคีวัดสุวรรณเจดีย์ จำกัดการสร้าง 299 กอง


จะได้รับเหรียญแจกทำบุญครับ


1. เหรียญเนื้อเงิน 1 เหรียญ ไม่ระบุหมายเลข


2. เนื้อทองทิพย์ 30 เหรียญ ไม่ระบุหมายเลข


รวมจำนวน 31 เหรียญ ( ทุกเหรียญตอกโค๊ด รันนัมเบอร์ )

 




ประวัติ พระอรหันต์ เจ้าคุณเสงี่ยม พระสุวรรณศีลาจารย์ วัดสุวรรณเจดีย์ พระนครศรีอยุธยา เจ้าคุณไวทย์บอกว่า องค์นี้ทองแท้ของจริง !

พระสุวรรณศีลาจารย์ (หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ) พระเถราจารย์ทรงคุณวิเศษอัศจรรย์ พระอริยเจ้าสืบทอดวิชาสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติอีกรูป กราบได้สนิทใจ พระผู้เมตตาแห่งทุ่งมหาราช กรุ่งเก่า

พระอริยเจ้าทรงคุณวิเศษพลังจิตล้ำลึกเกินจะหยั่งถึง

พระจริง พระแท้ เมืองเก่า หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม พระสุวรรณศีลาจารย์ เป็นพระสหายกับหลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง พระอาจารย์โทน วัดเชิงหวาย ร่ำเรียนวิชาร่วมกันมา ไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดิน

ว่ากันว่า ทั้ง 3 รูปลองวิชากันนั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืน เสกใบไม้เป็นแตน เสกต้นหญ้าเป็นงู ถอดการทิพย์ ฯลฯ ต่างก็เอาชนะกันไม่ลง จนอาจารย์ปรารถว่า กินกันไม่ได้

ยอดพระเกจิผู้เฒ่าเมืองกรุงเก่า เพชรแท้ ผู้ซ่อนกาย ปลีกวิเวก
ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หลายคนมาขอท่านลงหนังสือ ท่านไม่ยอม เพียงเพราะชอบปฏิบัติธรรมตามคำสอนครูอาจารย์ ท่านบอกว่า ยิ่งคนมากยิ่งยุ่งมาก ปฏิปทา พระผู้เฒ่าเทพเจ้าทุ่งมหาราช ชาวบ้านศรัทธากันมาก

หลวงปู่คุยกับนก !
พระลูกวัดบอกว่า หลวงปู่แปลกไม่เหมือนใคร บางครั้งชอบคุยกับนก จู่ๆนกตัวที่ท่านคุยด้วยบินมาเกาะแขนเกาะมือหลวงปู่อย่างว่าง่าย เชื่องจนผิดวิสัย ทำให้พระเณรแปลกใจสงสัยกันว่าหลวงปู่คงมี เจโตฯ พอถามหลวงปู่ ท่านก็บอกว่า ไม่มีอะไรหรอก
อีกครั้งหนึ่งที่สุนัขที่วัดตาย !ไป ก่อนตายมันวิ่งมาหาหลวงปู่ หลวงปู่ก็ภาวนาอยู่สักครู่ สุนัขตัวนั้นก็ตาย หลวงปู่พูดเปรยๆว่า : ไปสวรรค์แล้วอย่าลืมตัวนะ เดี๋ยวกลับมาอีกข้าไม่ช่วยแล้วนะ :

อริยบทหลังเจริญพระกรรมฐาน หลวงปู่ท่านชอบมากวาดลานวัด ใบไม้หลังวัด
บริเวณหลังวัดหลวงปู่จัดไว้เพื่อให้พระสงฆ์ต่างแดนมาเข้าปริวาสกรรม เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์

หลวงปู่ท่านเจ้าคุณ เสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์
พระโบราณเรือง อาคมขลังแห่ง “ ทุ่งมหาราช ’’ พระผู้เฒ่าสืบทอดวิชาจาก ครูอาจารย์หลายรูปสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเดิม วัดหนอง โพธิ์ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน พระอุปัชฌาย์กิ่ม วัดกลาง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อมุย วัดดอนไร่หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม หลวงพ่อลาภ วัดท้ายย่าน หลวงพ่อกล่อม วัดโพธิ์ประสิทธิ์ หลวงปู่วัน วัดกลางทุ่ง หลวงปู่จ่าย วัดรุ้ง หลวงตาแป้น วัดท่า เป็นต้น

ปัจจุบัน พระสุวรรณศีลาจารย์ สิริอายุ 87 พรรษา 66 ดำรงตำแหน่งพระราชาคณะและเจ้าอาวาสวัดสุวรรณเจดีย์

อัตโนประวัติ พระสุวรรณศีลาจารย์ (หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม )

มีนามเดิมว่า เสงี่ยม เกิดในสกุล “เฉลิมบุตร ’’ เกิดเมื่อปี 2468 บิดาชื่อ นายเสน่ห์ เฉลิมบุตร มาดาชื่อ นางต้อม เฉลิมบุตร ในวัยเด็กหลวงปู่เสงี่ยมท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจเมตตา อ่อนโยน ว่านอนสอนง่ายเป็นที่รักของบิดา มารดา หลวงปู่เสงี่ยมมีพี่น้องทั้งหมด 9 คนหลวงปู่เสงี่ยมเป็นบุตรคนที่ 6

ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่ออายุ 20 ปี ณ วัด ธรรมรส โดยมี พระอุปัชฌาย์กิ่ม วัดบ้านกลาง เป็นอุปัชฌายะ หลวงพ่อแวว วัดท่าตอ เป็นพระกรรมวาจารย์ หลวงพ่อฟื้น วัดวัง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ ปัญญาทีโป ’’
แปลว่า ผู้มีปัญญาดั่งดวงประทีป

ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมกับ พระอุปัชฌาย์ ( กิ่ม ) วัดบ้านกลาง เรียนควบคู่กับการฝึกกัมมัฎฐานสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน 2 ปี จนหลวงปู่กิ่ม ออกปากชมว่า “ ต่อไปถ้าข้าไม่อยู่แล้วพระเสงี่ยมองค์นี้แหละแทนข้าได้ ’’

ถ้ามีงานปลุกเสกพระที่ใหน หลวงปู่กิ่มต้องพาหลวงปู่เสงี่ยมไปปลุกเสกพระทุกครั้ง หลวงปู่เสงี่ยมเคยปฏิเสธไม่ขอร่วมปลุกเสกร่วมกับอาจารย์ท่านบอกว่าท่านเป็น ศิษย์ไม่คิดล้างครู แต่ด้วยเป็นคำสั่งจึงไม่กล้าขัด หลังเสกพระแล้ว หลวงปู่กิ่มท่านชมว่า “ จะเสกพระให้เป็นทองเลยหรือ ”

หลวงปู่กิ่ม เป็นพระโบราณเป็นพระอภิญญาสูงมากเสกใบไม้เป็นต่อเป็นแตนเป่า เทียนระเบิดน้ำลงไปจารพระยันต์ใต้น้ำ เรียกปลาเดินบนน้ำฝนตกไม่เปียกเป็นที่ร่ำลือไปทั่วคุ้งกลาง หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ได้วิชาเอกอุจากหลวงปู่กิ่มมาหมด พุทธาคมไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่พูด ท่านเงียบเฉยเหมือนหลวงปู่เจ้าเฝ้าวัด ชอบปลีกวิเวกนั่งสมาธิ ปัดกวาดลานวัดเสมือนพระธรรมดาองค์หนึ่ง

หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม:  คนทุ่งมหาราชไปกราบหลวงพ่อกวยที่ชัยนาท ท่านบอกว่า “ ที่ทุ่งมหาราชหลวงพ่อเสงี่ยมเขาแทนฉันได้ไม่ต้องมาหรอก ” หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ยังได้รับการถ่ายทอดวิชากับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่: อดีตพระอาจารย์ของหลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม หลวงพ่อมุ่ย ใครๆว่าเรียนยาก หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม เรียนกรรมฐานจนจับทางได้หมด หลวงพ่อมุ่ย ท่านไม่ค่อยพูด เพียงตอบสั้นว่า “ เอ็งนี่ไม่เบา ”

หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม: ได้ถ่ายทอดวิชากายทิพย์ให้หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม จนสำเร็จไปใหนมาใหนเร็วเพียงลัดนิ้วมือเดียว เคยมีศิษย์ที่วัดสุวรรณเจดีย์เล่าต่อๆกันมาว่า มีโยมมาตามหลวงปู่เสงี่ยมไปงานศพหน้าวัด หลวงปู่เสงี่ยมให้โยมกลับไปก่อนเดี๋ยวตามไป โยมที่มาตามหลวงปู่เสงี่ยมเห็นว่าอยู่หน้าวัดหลวงปู่เดินไม่ไกล พอโยมเขากลับมาถึงบ้านงานศพถึงกับตกใจ เพราะเห็นหลวงปู่เสงี่ยมกำลังก้าวขึ้นบันไดบ้านงานศพ จึงเป็นที่ร่ำลือกล่าวขานกันไปทั่วคุ้งมหาราช

หลวงพ่อลาภ วัดท้ายย่าน: องค์นี้ไม่ธรรมดาที่หลวงปู่เสงี่ยมไปเรียนวิชา ด้านสมุนไพร โดยเฉพาะวิชาต่อกระดูกที่หลวงปู่เสงี่ยมเรียนไว้ เมื่อปี 251.. กว่าๆคนมาให้หลวงปู่เสงี่ยมรักษาเต็มวัด ทุกวันนี้หลวงปู่เสงี่ยม ไม่ทำแล้ว ท่านบอกว่า อายุมากแล้ว ทำไม่ไหว น้ำมัน น้ำมนต์ ได้วิชาจากหลวงพ่อลาภ วัดท้ายย่านมาหมด ทำออกไปก็ขลัง ของทุกวันนี้หายากมาก หลวงพ่อลาภ ท่านได้วิชาจากหลวงพ่อรอด พระเกจิที่ขนาดมรณภาพแล้ว ใครก็จุดไฟเผาร่างท่านไม่ได้ อยู่ๆก็มีฟ้าผ่าลงมาบนยอดตาล เกิดไฟไหม้ยอดตาลล่วงมาที่ร่างหลวงปู่รอด จึงเผาได้สุดอัศจรรย์

หลวงพ่อกล่อม วัดโพธิ์ประสิทธิ์: ท่านเก่งวิชาเลี้ยงผี การเรียนวิชาอาคมในสมัยโบราณ ครูจะหวงวิชามาก ดังนั้นก่อนการเรียนจะต้องมีการขึ้นครูก่อนเสมอเพื่อให้อาคมนั้นสามารถรักษา ผู้เรียนได้ หลวงปู่เสงี่ยมก็ไปขอเรียนเอาไว้ได้สมัยก่อนทุ่งมหาราชผีดุ ใครไปไหนกลางคืนไม่ได้โดนหลอกหัวโกร่น หลังจากหลวงปู่เสงี่ยมท่านได้วิชามาท่านก็ไล่หมดจนทุกวันนี้ ไม่มีผีออกมาหลอกชาวบ้านอีกเลย หลวงปู่เสงี่ยมเรียนวิชาเลี้ยงผีเอาไว้แก้กลับลำจนชาวบ้านเรียกว่า “ หลวงปู่เสงี่ยมผีกลัว ”

หลวงปู่วัน วัดกลางทุ่ง: วิชาผูกหุ่นอันดับหนึ่ง การผูกหุ่น คือการนำ ดินหญ้าหรือขี้ผึ้งมาปั้นเป็นรูปคน แล้วทำพิธีทางไสยเวทย์ เป็นวิชาที่น่ากลัวมาก ใครนำไปใช้ในทางดีเป็นคุณใครใช้ในทางไม่ดีเป็นโทษได้ หลวงปู่เจ้าคุณเสงี่ยมท่านมาเรียนเพื่อจะนำไปช่วยคนจนหลวงปู่วันพูดกับโยม กลางศาลาวัดว่า “ ข้าทำไม่ไหวก็ไปหาท่านเสงี่ยมนะเขาเอาไว้หมดแล้ว ” หลวงปู่เสงี่ยมเมตตาช่วยแก้วิชาที่โยมโดนทำของ โดนเสน่ห์ยาแฝด มาถึงมือหลวงปู่เสงี่ยมหายหมดทุกวันนี้ท่านไม่ไหวแล้ว ท่านอายุมาก ทำยาก

หลวงปู่จ่าย วัดรุ้ง กับ หลวงตาแป้น วัดท่า: ท่านเป็นสหธรรมิกกัน เวลาที่ท่านสอนหลวงปู่เสงี่ยม ท่านจะสอนพระกรรมฐาน การเล่นกสิน วิชาครอบจักรวาล พระอาจารย์ทั้งสององค์บอกหลวงปู่เสงี่ยมว่า ไม่ต้องเรียนแล้ว รู้หมดทุกอย่างแล้วต่อไปก็ขอให้ช่วยคนเพราะต่อไปจะเป็นหลักชัยให้ชาวบ้านใน ภายหน้า

สมภารเจ้าวัด :
หลังจากกลับมาอยู่วัดสุวรรณเจดีย์ ท่านก็ได้เป็นสมภารเจ้าวัด ทำคุณงามความดีมาตลอด ช่วยเหลือชาวบ้านจนเป็นที่ศรัทธา ช่วนเหลืองานศาสนามิได้ขาด จนวันหนึ่งได้ช่วยงาน ท่านเจ้าคุณไวทย์ วัดบรมวงศ์ ฯ ท่านก็รักหลวงปู่เสงี่ยมเสมือนลูกคนหนึ่ง ไปมาหาสู่มิได้ขาด ขนาดก่อนมรณภาพได้บอกกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ว่า “ ท่านอย่าลืมหลวงตาเงี่ยมข้านะ ’’

หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ท่านไม่ค่อยสร้างพระเครื่อง ท่านไม่ชอบให้ยึดติดในวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ไม่ใช่วิธีปลดทุกข์ แต่ด้วยลูกศิษย์ขอให้หลวงปู่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึก หลวงปู่เสงี่ยมได้สร้าง ปลุกเสกพระเครื่อง ครั้งแรก ปี 16 เพื่อแจกลูกศิษย์แต่ไม่ได้จัดพิธีใหญ่โต คนที่ได้รับไป ล้วนมีประสบการณ์ทุกคน หลวงปู่เสงี่ยมเคยปรารภกับลูกศิษย์ว่า "สมัยฉันหนุ่มๆ เสกเหรียญแจกปี 16 เสกจนหลังคาโบสถ์แตก แจกแล้วต้องมานั่งซ่อมโบสถ์"แล้วท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี


หลวงปู่เสงี่ยม หรือ เจ้าคุณเสงี่ยม ( พระสุวรรณศีลาจารย์ ) เป็นยอดพระเกจิที่ชาวกรุงเก่า ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นคนเงียบ ไม่พูดไม่คุย แต่ชาวบ้านทุ่งมหาราชทราบดีว่า พระรูปนี้เป็นยอดพระเกจิที่เข้มขลังขนานแท้

ในด้านถาวรวัตถุ 
ท่านสร้างอุโบสถไว้หลายหลัง สร้างวิหาร สร้างกุฏิสงฆ์ปรับภูมิทัศน์ปลุกต้นไม้ทั่วบริเวณวัดสุวรรณเจดีย์ให้เหมาะ สำหรับการปฏิบัติธรรม เพราะที่วัดจะมีการเข้าปริวาสกรรมของพระและเณรทุกปี และแจกทุนการศึกษาเด็กนักเรียน ประถม มัธยม อาชีวศึกษา สร้างโรงเรียน สร้างวัดส่งพระภิกษุ-สามเณรมาเรียนกรุงเทพฯ ทุกปี

 วัดถุมงคล

หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ไม่ค่อยจัดสร้างพระเครื่อง ถ้าหลวงปู่ท่านเจ้าคุณสร้างก็สร้างไม่มาก เป็นวาระๆ สร้างทุกครั้งก็แจกจนหมด เป็นที่เสาะแสวงหากันมาก พอหมดแล้วก็ไม่เคยมีใครได้พบเห็นอีกเลย เรียกว่า เก็บกันหมด ให้กันไม่ได้

ประสบการณ์สูง 

ด้านเมตตามหานิยมโภคทรัพย์สูงมากคนที่ได้ไปต่างก็พูดต่อๆกันว่า เหรียญหลวงพ่อเสงี่ยมช่วยให้รอดพ้นจากอันตรายได้ มีเหรียญหลวงพ่อเสงี่ยมโดนรถชนกระเด็นไปไกล ลุกขึ้นมา ไม่เป็นอะไร ไม่นานเหรียญรุ่นแรกที่หลวงพ่อเสงี่ยมทำแจกก็หมดไปภายในพริบตา

แม่ค้าขายหมูในตลาดบอกว่า ตั้งแต่ได้เหรียญรุ่นแรกมา ใส่กระป๋องตังค์ ขายดีกว่าร้านตรงข้าม โดนเขม่นตลอดเลยต้องย้ายร้านหนี ย้ายหนีมาไกลก็คงขายดีเหมือนเดิม ตั้งแต่ได้เหรียญหลวงพ่อเสงี่ยมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หลานชายมาขอก็ไม่กล้าให้ กลัวหาไม่ได้ เลยไปขอเหรียญหลวงพ่อเสงี่ยม เพื่อให้หลานชายไว้ใช้หลวงปู่ท่านเจ้าคุณก็ยิ้มให้แล้วเมตตาบอกว่า " ไม่มีแล้วอาตมาแจกหมดไปแล้ว "

เหรียญรุ่นแรกๆ หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม หากันไม่ได้แล้ว เป็นตำนานเล่าขานกันทุกวันนี้ เห็นแต่เหรียญรุ่น 2 รุ่น 3 ที่โชว์นี้แหละครับ หลวงพี่ที่วัดมอบให้ดู รุ่นนี้ก็หาไม่ได้แล้วเช่นกัน ชาวทุ่งมหาราชเห็นที่ใหนรีบคว้ากันหมด เพื่อใครเจอที่ใหนจะได้รีบเก็บครับ

"ใครมีโอกาศได้ไปกราบ จะเป็นบุญมหาศาลนั่นแหละนาบุญโดยแท้ " โดยเจ้าคุณทอง วัดโปรดสัตว์

พระอรหันต์ องค์นี้แหละอาจารย์ของเรา " เจ้าคุณหล่อ วัดพนัสนิคม "

รู้ทุกอย่าง เห็นทุกสิ่ง คิดอะไร หนีท่านไม่พ้น " หลวงตาชัด วัดบ้านปูน "

ฉันทำพระแล้ว ต้องนำไปให้ท่านเสกทุกครั้ง ขอบารมีท่านเจ้าคุณ " หลวงพ่อ วัดกลางทุ่ง "

หลวงตาเงี่ยมข้า เก่งไม่เป็นรองใครในมหาราช " เจ้าคุณไวทย์ วัดบรมวงศ์ "

พระธรรม เสียงธรรมของหลวงพ่อเสงี่ยม ถูกใจอาตมามาก หาฟังที่ไพเราะแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว " หลวงพ่อล้วน วัดพิกุลโสคันธ์ "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น